กฎหมายเกี่ยวกับการทะเลาะวิวาท
การรักพวกรักพ้องเป็นของดี พอมีเรื่องต่อยตีก็เข้าช่วย ก็ยังเป็นเรื่องดีอยู่นั่นแหละ เพียงแต่ที่ไปช่วยนั้นควรเป็นการช่วยห้ามช่วยแยกมากกว่าช่วยกระหน่ำให้อีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำแพ้ไป มิเช่นนั้นอาจได้ข้อหาทางอาญาติดตัวมาให้กลุ้มใจได้
การตีกันหรือช่วยกันตีมีความผิดเบาะๆ ก็แค่การทะเลาะวิวาท ถ้าทำในที่สาธารณะก็จะถูกปรับไม่เกินห้าร้อยบาท อาจดูน้อยไป ถ้าเช่นนั้นลองดูข้อหาที่หนักหนากว่าหน่อยดูบ้าง
การทะเลาะวิวาทต่อสู้กันโดยมีการแสดงอาวุธหรือชักอาวุธขึ้นมา ไม่ว่าจะมีการแทงการยิงหรือไม่ ก็ได้ข้อหาวิวาทที่อาจไม่เพียงถูกปรับแค่ห้าร้อยบาท แต่อาจได้โทษจำคุกไม่เกินสิบวันติดมาด้วย แม้จะเพียงสิบวันก็คงไม่มีใครฝันอยากเข้าคุกแน่ ข้อหานี้ไม่จำกัดว่าต้องทำในที่สาธารณะเหมือนแบบแรกเท่านั้น กฎหมายก็เอาโทษเอาทัณฑ์ได้หมด
หรือว่าโทษยังดูน้อยไป การทะเลาะวิวาทขนาดใหญ่ก็มีโทษมากมายสูงขึ้นตามมา เป็นต้นว่าถ้าไม่ใช่ทะเลาะวิวาทธรรมดา แต่ว่าเป็นเรื่องชุลมุนต่อสู้กันแล้วมีการตายเกิดขึ้นจากการชุลมุนต่อสู้นั้น โทษก็หนักเป็นการถูกจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
การยกพวกตีกันไม่สำคัญว่าฝ่ายใดจะเริ่มก่อน แต่เมื่อชุลมุนแล้วก็เห็นภาพได้ว่าน่าจะพัลวันกันไปหมด ไม่รู้ว่ามือใครเท้าใครหรือไม้จากมือคนไหนที่ฟาดเข้าใส่จนเกิดความตายขึ้นมา แม้ว่าจะวงแตกแล้วจับมือใครดมไม่ได้ กฎหมายท่านก็กวาดเอาไว้ทั้งทีม
ความผิดในข้อหานี้ไม่มีข้อจำกัดว่าเราจะเป็นฝ่ายคนตายหรือไม่ ก็ต้องได้รับผิดไปเหมือนๆ กัน อีกอย่างที่สำคัญก็คือคนที่ตายอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุลมุนต่อสู้กับเขาเลยก็ตามที ขอให้มีความตายอันเกิดจากการชุลมุนนี้ก็มีคุกเป็นเดิมพันแล้ว
ส่วนที่ว่าชุลมุนต่อสู้ก็ไม่ต้องดูจำนวนคนมากมายหลายสิบ เพียงมีการต่อสู้กันตั้งแต่สามคนขึ้นไปก็เรียกตามกฎหมายว่า "ชุลมุนต่อสู้" แล้ว
กฎหมายไม่ได้ต้องการให้เอาตัวรอดไม่ห่วงความปลอดภัยของเพื่อน ใช่ว่ามีเรื่องแล้ววิ่งหนีเอาตัวรอดปล่อยให้เพื่อนถูกซ้อมอยู่ตรงนั้น การที่เกิดชกต่อยตบตีกันก็ต้องการคนมาห้ามมวยด้วย หรือว่าเพื่อนถูกทำร้ายก็เข้าไปต่อสู้เพื่อป้องกันภัยให้เพื่อน อย่างนี้กฎหมายท่านยกเว้นโทษให้ เพราะถือว่าเป็นการเข้าไปห้ามปรามหรือป้องกันตัว
นั่นหมายความว่า ถ้าไม่ได้ความชัดว่าใครเป็นคนทำร้ายจนเกิดความตาย ทำให้ไม่สามารถตั้งข้อหาว่าทำร้ายหรือเจตนาฆ่าได้ ก็มีความผิดฐานชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้เกิดความตายขึ้นมา แต่ถ้าได้ความว่าคนไหนเป็นคนทำให้ตายไม่เพียงได้จำคุกเพียงไม่กี่ปี แต่มีความผิดฐานฆ่าคนตายหรือทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แล้วแต่ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร และโทษที่ได้ในข้อหานี้มันหนักหนาทีเดียว
ส่วนพวกที่อยู่ในเหตุการณ์มีส่วนแค่ไหนก็รับผิดตามนั้นไป ถ้าร่วมด้วยช่วยกันอัดเขาจนตายก็ถือว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานนั้นๆ ไปด้วยกัน จะเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนก็ว่ากันไป ถ้าเพียงไปชุลมุนมั่วซั่วกับเขาเท่านั้น ก็รับโทษเพียงการชุลมุนต่อสู้จนเกิดความตายอย่างที่ว่าไว้ข้างต้นเท่านั้น
เรื่องทะเลาะวิวาทบาดหมางต่อกันเป็นเรื่องไม่ดี ไม่มีกฎหมายฉบับไหนเป็นใจสนับสนุน เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นที่สมเหตุสมผลและสมควรแก่กรณี ก็มีการยกเว้นโทษให้ อย่าคิดว่าเพียงยืนดูเป็นกำลังใจ สุดท้ายกลายเป็นอยู่กลางวงที่เขาตีกัน ความเสี่ยงที่จะได้โทษทัณฑ์ก็ตามมา
การตีกันหรือช่วยกันตีมีความผิดเบาะๆ ก็แค่การทะเลาะวิวาท ถ้าทำในที่สาธารณะก็จะถูกปรับไม่เกินห้าร้อยบาท อาจดูน้อยไป ถ้าเช่นนั้นลองดูข้อหาที่หนักหนากว่าหน่อยดูบ้าง
การทะเลาะวิวาทต่อสู้กันโดยมีการแสดงอาวุธหรือชักอาวุธขึ้นมา ไม่ว่าจะมีการแทงการยิงหรือไม่ ก็ได้ข้อหาวิวาทที่อาจไม่เพียงถูกปรับแค่ห้าร้อยบาท แต่อาจได้โทษจำคุกไม่เกินสิบวันติดมาด้วย แม้จะเพียงสิบวันก็คงไม่มีใครฝันอยากเข้าคุกแน่ ข้อหานี้ไม่จำกัดว่าต้องทำในที่สาธารณะเหมือนแบบแรกเท่านั้น กฎหมายก็เอาโทษเอาทัณฑ์ได้หมด
หรือว่าโทษยังดูน้อยไป การทะเลาะวิวาทขนาดใหญ่ก็มีโทษมากมายสูงขึ้นตามมา เป็นต้นว่าถ้าไม่ใช่ทะเลาะวิวาทธรรมดา แต่ว่าเป็นเรื่องชุลมุนต่อสู้กันแล้วมีการตายเกิดขึ้นจากการชุลมุนต่อสู้นั้น โทษก็หนักเป็นการถูกจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
การยกพวกตีกันไม่สำคัญว่าฝ่ายใดจะเริ่มก่อน แต่เมื่อชุลมุนแล้วก็เห็นภาพได้ว่าน่าจะพัลวันกันไปหมด ไม่รู้ว่ามือใครเท้าใครหรือไม้จากมือคนไหนที่ฟาดเข้าใส่จนเกิดความตายขึ้นมา แม้ว่าจะวงแตกแล้วจับมือใครดมไม่ได้ กฎหมายท่านก็กวาดเอาไว้ทั้งทีม
ความผิดในข้อหานี้ไม่มีข้อจำกัดว่าเราจะเป็นฝ่ายคนตายหรือไม่ ก็ต้องได้รับผิดไปเหมือนๆ กัน อีกอย่างที่สำคัญก็คือคนที่ตายอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุลมุนต่อสู้กับเขาเลยก็ตามที ขอให้มีความตายอันเกิดจากการชุลมุนนี้ก็มีคุกเป็นเดิมพันแล้ว
ส่วนที่ว่าชุลมุนต่อสู้ก็ไม่ต้องดูจำนวนคนมากมายหลายสิบ เพียงมีการต่อสู้กันตั้งแต่สามคนขึ้นไปก็เรียกตามกฎหมายว่า "ชุลมุนต่อสู้" แล้ว
กฎหมายไม่ได้ต้องการให้เอาตัวรอดไม่ห่วงความปลอดภัยของเพื่อน ใช่ว่ามีเรื่องแล้ววิ่งหนีเอาตัวรอดปล่อยให้เพื่อนถูกซ้อมอยู่ตรงนั้น การที่เกิดชกต่อยตบตีกันก็ต้องการคนมาห้ามมวยด้วย หรือว่าเพื่อนถูกทำร้ายก็เข้าไปต่อสู้เพื่อป้องกันภัยให้เพื่อน อย่างนี้กฎหมายท่านยกเว้นโทษให้ เพราะถือว่าเป็นการเข้าไปห้ามปรามหรือป้องกันตัว
นั่นหมายความว่า ถ้าไม่ได้ความชัดว่าใครเป็นคนทำร้ายจนเกิดความตาย ทำให้ไม่สามารถตั้งข้อหาว่าทำร้ายหรือเจตนาฆ่าได้ ก็มีความผิดฐานชุลมุนต่อสู้เป็นเหตุให้เกิดความตายขึ้นมา แต่ถ้าได้ความว่าคนไหนเป็นคนทำให้ตายไม่เพียงได้จำคุกเพียงไม่กี่ปี แต่มีความผิดฐานฆ่าคนตายหรือทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แล้วแต่ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร และโทษที่ได้ในข้อหานี้มันหนักหนาทีเดียว
ส่วนพวกที่อยู่ในเหตุการณ์มีส่วนแค่ไหนก็รับผิดตามนั้นไป ถ้าร่วมด้วยช่วยกันอัดเขาจนตายก็ถือว่าร่วมกันกระทำความผิดฐานนั้นๆ ไปด้วยกัน จะเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนก็ว่ากันไป ถ้าเพียงไปชุลมุนมั่วซั่วกับเขาเท่านั้น ก็รับโทษเพียงการชุลมุนต่อสู้จนเกิดความตายอย่างที่ว่าไว้ข้างต้นเท่านั้น
เรื่องทะเลาะวิวาทบาดหมางต่อกันเป็นเรื่องไม่ดี ไม่มีกฎหมายฉบับไหนเป็นใจสนับสนุน เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นที่สมเหตุสมผลและสมควรแก่กรณี ก็มีการยกเว้นโทษให้ อย่าคิดว่าเพียงยืนดูเป็นกำลังใจ สุดท้ายกลายเป็นอยู่กลางวงที่เขาตีกัน ความเสี่ยงที่จะได้โทษทัณฑ์ก็ตามมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น